ทำความเข้าใจหลักการพื้นฐานของ JavaScript SEO

ทำความเข้าใจหลักการพื้นฐานของ JavaScript SEO


สำหรับนักพัฒนา

ทำความเข้าใจหลักการพื้นฐานของ JavaScript SEO

  • หากสงสัยว่าปัญหาที่เกี่ยวกับ JavaScript กำลังบล็อกหน้าเว็บหรือเนื้อหาบางส่วนของคุณไม่ให้แสดงใน Google Search ดูวิธีแก้ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับ JavaScript ได้ในคู่มือการแก้ปัญหา 
  • JavaScript เป็นส่วนสำคัญของแพลตฟอร์มบนเว็บ เนื่องจาก JavaScript มีฟีเจอร์มากมายที่เปลี่ยนเว็บให้เป็นแพลตฟอร์มแอปพลิเคชันที่มีประสิทธิภาพ การทำให้เว็บแอปพลิเคชันที่ทำงานด้วย
  • JavaScript ค้นพบได้ผ่าน Google Search จะช่วยให้คุณพบกับผู้ใช้รายใหม่ และดึงดูดผู้ใช้ที่มีอยู่ให้กลับมาอีกครั้ง
  • JavaScript  ขณะที่ผู้ใช้ค้นหาเนื้อหาที่มีอยู่บนเว็บแอปของคุณ แม้ว่า Google Search จะเรียกใช้
  • JavaScript กับ Chromium เวอร์ชันที่อัปเดตอยู่เสมอ มีบางอย่างที่คุณเพิ่มประสิทธิภาพได้

คู่มือนี้อธิบายวิธีที่ Google Search ประมวลผล JavaScript และแนวทางปฏิบัติแนะนำในการปรับปรุงเว็บแอป JavaScript สำหรับใช้กับ Google Search

 

วิธีที่ Googlebot ประมวลผล JavaScript
Googlebot
ประมวลผลเว็บแอป JavaScript ใน 3 ช่วงหลักๆ ได้แก่

  • การรวบรวมข้อมูล
  • การแสดงผล
  • การจัดทำดัชนี

Googlebot รวบรวมข้อมูล แสดงผล และจัดทำดัชนีหน้าเว็บ Click To Web link

ภาพรวมของหัวข้อการรวบรวมข้อมูลและการจัดทำดัชนี
หัวข้อในส่วนนี้อธิบายวิธีที่คุณจะควบคุมความสามารถของ Google ในการค้นหาและแยกวิเคราะห์เนื้อหาของคุณเพื่อแสดงใน Search รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ ของ Google ได้ ตลอดจนอธิบายวิธีป้องกันไม่ให้ Google รวบรวมข้อมูลเนื้อหาบางอย่างในเว็บไซต์

ต่อไปนี้คือคำอธิบายโดยย่อของแต่ละหน้า หากต้องการดูภาพรวมของการรวบรวมข้อมูลและการจัดทําดัชนี โปรดอ่านคู่มือวิธีการทํางานของ Search

หัวข้อ

 

แผนผังเว็บไซต์

บอก Google เกี่ยวกับหน้าต่างๆ ในเว็บไซต์ที่เป็นข้อมูลใหม่หรืออัปเดต

robots.txt

ไฟล์ robots.txt จะบอกโปรแกรมรวบรวมข้อมูลของเครื่องมือค้นหาว่า หน้าเว็บหรือไฟล์ใดในเว็บไซต์ที่โปรแกรมเข้ารวบรวมข้อมูลได้และไม่ได้

เมตาแท็ก

Google รองรับส่วนขยายแท็กหลายรายการที่ควบคุมลักษณะที่ปรากฏและการทำงานในการค้นหา

การจัดการโปรแกรมรวบรวมข้อมูล

ขอให้ Google รวบรวมข้อมูล URL อีกครั้ง

ลดอัตราการรวบรวมข้อมูลของ Googlebot

การยืนยัน Googlebot และ Crawler อื่นๆ

คู่มือการจัดการงบประมาณเวลาและทรัพยากรในการรวบรวมข้อมูลสำหรับเจ้าของเว็บไซต์ขนาดใหญ่

รหัสสถานะ HTTP รวมถึงข้อผิดพลาดเกี่ยวกับเครือข่ายและ DNS ส่งผลต่อ Google Search อย่างไร

โปรแกรมรวบรวมข้อมูลของ Google

การนำออก

ควบคุมสิ่งที่คุณแชร์กับ Google

นำหน้าเว็บที่โฮสต์ในเว็บไซต์ของคุณออกจาก Google

นํารูปภาพที่โฮสต์ในหน้าเว็บออกจากการปรากฏในผลการค้นหา

เลือกไม่ใช้การแสดงผลบน Google Local รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ ของ Google ด้วย Search Console

เนื้อหาที่ซ้ำกัน

แจ้งให้ Google ทราบเกี่ยวกับหน้าที่ซ้ำกันในเว็บไซต์เพื่อหลีกเลี่ยงการรวบรวมข้อมูลมากเกินไป ดูวิธีที่ Google ตรวจหาเนื้อหาที่ซ้ำกันโดยอัตโนมัติ วิธีดำเนินการกับเนื้อหาที่ซ้ำกัน และวิธีกำหนดหน้า Canonical ให้กับกลุ่มหน้าที่ซ้ำกันตามที่พบ

การย้ายและการเปลี่ยนแปลงเว็บไซต์

การเปลี่ยนเส้นทางและ Google Search

การย้ายเว็บไซต์

หยุดชั่วคราวหรือปิดใช้เว็บไซต์ชั่วคราว

เว็บไซต์ระหว่างประเทศและเว็บไซต์หลายภาษา

หากเว็บไซต์มีเนื้อหาเป็นภาษาต่างๆ หรือมีเนื้อหาที่แตกต่างกันสำหรับแต่ละสถานที่ตั้ง ต่อไปนี้เป็นวิธีที่จะช่วยให้ Google เข้าใจเว็บไซต์ได้

เนื้อหา JavaScript

มีข้อแตกต่างและข้อจำกัดบางประการที่ต้องคำนึงถึงเมื่อออกแบบหน้าเว็บและแอปพลิเคชันให้รองรับวิธีที่โปรแกรมรวบรวมข้อมูลเข้าถึงและแสดงเนื้อหาของคุณ

คำถาม Google จะลงท้ายด้วยข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหม”  
วิเคราะห์ความสนใจและต้องการกระทำสิ่งใด

วิธีทำให้เว็บไซต์ปรากฏใน Google Search

Google Search Central เดิมชื่อ Google ผู้ดูแลเว็บ พร้อมช่วยให้คนที่ตรงกลุ่มเป้าหมายดูเนื้อหาพร้อมกับทรัพยากรของคุณเพื่อให้เว็บไซต์ค้นพบได้ใน Google Search หากเพิ่งหัดใช้ SEO ให้เริ่มด้วยการอ่านคู่มือเริ่มใช้งาน Google Search ฉบับย่อ

เริ่มต้น สิ่งที่คุณทําได้เพื่อปรับปรุง SEO ของเว็บไซต์โดยเฉพาะ
เลือกโปรไฟล์และรับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีปรับปรุง SEO
ของเว็บไซต์ที่ด้านล่าง

สิ่งที่คุณทำได้มีดังนี้ ตามโปรไฟล์ที่คุณเลือก นี่คือคำแนะนำสำหรับเว็บไซต์ของคุณ

ตรวจสอบว่าคุณปรากฏใน Search หรือไม่ และปรากฏอย่างไร

  • ตรวจสอบว่าเว็บไซต์ของคุณปรากฏใน Google Search รวมทั้งดูว่าชื่อและคำอธิบายของเว็บไซต์มีลักษณะเป็นอย่างไร

อ่านเพิ่มเติม

อธิบายธุรกิจของคุณอย่างคร่าวๆ

  • ลองนึกถึงข้อความที่อธิบายธุรกิจของคุณอย่างสั้นกระชับ โดยทั่วไปแล้ว คุณจะเปลี่ยนคำอธิบายนี้ใน CMS ได้โดยตรง หรือจะให้นักพัฒนาซอฟต์แวร์ช่วยคุณอัปเดตก็ได้

อ่านเพิ่มเติม

มีสิทธิ์ใช้ฟีเจอร์พิเศษ

  • ให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ Search ในรูปแบบข้อมูลที่มีโครงสร้าง ซึ่งจะทำให้หน้าเว็บมีสิทธิ์ใช้ฟีเจอร์บางอย่าง

อ่านเพิ่มเติม

ใช้รูปภาพที่มีคุณภาพสูงและอธิบายรูปภาพดังกล่าว

  • การเพิ่มบริบทเกี่ยวกับรูปภาพจะให้ประโยชน์มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้การเข้าชมเว็บไซต์ของคุณมีคุณภาพสูงขึ้น

อ่านเพิ่มเติม

มอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีแก่ผู้ใช้

  • วิเคราะห์ความเร็วของหน้าเว็บและความเหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ รวมทั้งรับคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีปรับปรุง

อ่านเพิ่มเติม

ใช้ Search Console เพื่อรับรายงานการวิเคราะห์การค้นหา

  • ดูประสิทธิภาพของเว็บไซต์ เช่น จำนวนคลิกที่ได้รับ คุณอยู่ในอันดับที่เท่าไร รับการแจ้งเตือนและคำแนะนำที่สำคัญ

อ่านเพิ่มเติม

หากคุณกำลังพิจารณาว่าจ้างผู้ให้บริการ SEO โปรดดูเคล็ดลับเหล่านี้

  • หากคิดว่าต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากมืออาชีพ โปรดอ่านเคล็ดลับเกี่ยวกับการเลือกผู้ให้บริการ SEO

อ่านเพิ่มเติม

อ่านคู่มือเริ่มใช้งาน SEO ฉบับย่อ

 

SEO + Event + Application    

กรณีศึกษา

  • Saramin เพิ่มการเข้าชมจากการค้นหาทั่วไป 2 เท่า
  • MX Player ได้การเข้าชมจากการค้นหาทั่วไปเพิ่มขึ้น 300 เท่า
  • ZipRecruiter เพิ่มอัตรา Conversion ได้ 4.5 เท่า

ทำความเข้าใจวิธีการทำงานของข้อมูลที่มีโครงสร้าง
Google Search ทำงานอย่างเต็มที่เพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาในหน้า คุณช่วยให้ Google เข้าใจได้ด้วยการใส่ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับความหมายของหน้าผ่านการรวมข้อมูลที่มีโครงสร้างในหน้า ข้อมูลที่มีโครงสร้างคือรูปแบบมาตรฐานในการแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับหน้าและจำแนกประเภทเนื้อหาของหน้า เช่น การแจ้งส่วนผสม เวลาและอุณหภูมิที่ใช้ปรุงอาหาร จำนวนแคลอรี ฯลฯ ในหน้าสูตรอาหาร

Google ใช้ข้อมูลที่มีโครงสร้างซึ่งพบในเว็บเพื่อทำความเข้าใจเนื้อหาในหน้า อีกทั้งเพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับเว็บและข้อมูลโดยทั่วไปในโลกใบนี้ด้วย ตัวอย่างเช่น นี่คือตัวอย่างข้อมูลที่มีโครงสร้าง JSON-LD ที่อาจปรากฏในหน้าสูตรอาหารซึ่งอธิบายเกี่ยวกับชื่อสูตร ผู้เขียนสูตร และรายละเอียดอื่นๆ

ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม 2021 มาร์กอัป data-vocabulary.org จะไม่มีสิทธิ์ใช้ฟีเจอร์ผลการค้นหาที่เป็นสื่อสมบูรณ์ของ Google อีก หากต้องการใช้ฟีเจอร์นี้หลังวันดังกล่าว คุณต้องใช้มาร์กอัป schema.org แทน data-vocabulary.org ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยกเลิกการรองรับ data-vocabulary

เอกสารประกอบนี้จะอธิบายพร็อพเพอร์ตี้ที่จำเป็น พร็อพเพอร์ตี้ที่แนะนำ หรือพร็อพเพอร์ตี้ที่ไม่บังคับสำหรับข้อมูลที่มีโครงสร้าง ซึ่งมีความหมายพิเศษต่อ Google Search ข้อมูลที่มีโครงสร้างส่วนใหญ่ของ Search จะใช้คำศัพท์ของ schema.org แต่คุณควรใช้เอกสารประกอบของ Google Search Central เป็นรายการที่สมบูรณ์ที่สุดสำหรับการทำงานของ Google Search ไม่ใช่เอกสารประกอบของ schema.org นอกจากนี้ ยังมีแอตทริบิวต์และออบเจ็กต์เพิ่มเติมใน schema.org ที่ Google Search ไม่ได้บังคับ แต่อาจเป็นประโยชน์ต่อบริการ เครื่องมือ และแพลตฟอร์มอื่นๆ

ตัวอย่าง SEO Topic ที่สำคัญและนี้คือ SEO ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

จากการศึกษาและเปรียบเทียบการทำงานจากชุดคำสั่งทั้งหมด
เนื้อหาต่อไปนี้ คือ ชุดคำสั่งที่ใช้ในกรณี ท่านอธิการบดีฯ

ดูข้อมูลเกี่ยวกับมาร์กอัปสคีมาบทความ
Google Search Central  | เอกสารประกอบ  |  Google Developers

ตัวอย่างข้อมูลแนะนำคือช่องพิเศษที่มีการกลับรูปแบบของผลการค้นหาปกติโดยแสดงตัวอย่างข้อมูลพร้อมคำอธิบายก่อน อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการทำงานของตัวอย่างข้อมูลแนะนำของ Google

https://developers.google.com/search/docs/advanced/structured-data/article?hl=th

KEYWORD / VIDEO เนื้อหาที่ Upload ขึ้น YOUTUBE /

Path 1 เรามาศึกษาหัวข้อ Google Search Central ช่วงเดือน กรกฏาคม - ตุลาคม  

  • คู่มือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนเครื่องมือการค้นหา (SEO) สำหรับมือใหม่
  • วิธีทำให้เว็บไซต์ปรากฏใน Google Search
  • การปรับโฆษณาตามโปรไฟล์ของผู้ใช้
  • เครื่องมือตรวจสอบ URL

path 2

  • ทำไมต้อง Google Search 
  • รูปภาพของคุณช่วยเราได้มาก
  • Maps รู้เกี่ยวกับเนื้อหาส่วนตัวของคุณได้อย่างไร

 

บรรยายโดย : อาจารย์กฤติเดช ฉายจรุง

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม และสื่ออีกมากมายหลากหลายสาขาวิชา

 

[GA4] Google Analytics 360 (พร็อพเพอร์ตี้ Google Analytics 4)

 

ข้อตกลงระดับการให้บริการของ GA 360 Suite – Google

[GA4] เริ่มต้นใช้งานการสำรวจ - Analytics ความช่วยเหลือ (google.com)

สํารวจเส้นทางการเรียนรู้ที่มีโครงสร้างของเราเพื่อค้นหาทุกสิ่งที่คุณจําเป็นต้องรู้เกี่ยวกับการสร้างเว็บสมัยใหม่ที่ยอดเยี่ยม Learn (web.dev)